เจาะลึกพอทลิมิตโอมาฮา เกมโป๊กเกอร์ยอดนิยมของนักเดิมพัน
แม้ว่าเกมโป๊กเกอร์จะมีการพัฒนาออกไปมากมายหลายรูปแบบ ถึงอย่างนั้นโอมาฮาก็ยังคงเป็นอีกรูปแบบที่ได้รับความนิยมในหมู่นักเดิมพันกันอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบันไม่แพ้เท็กซัสโฮลด์เอ็ม ด้วยรูปแบบกฎกติกาที่แทบจะไม่ต่างกัน ทำให้ผู้เล่นที่มีพื้นฐานในเท็กซัสโฮลด์เอ็มมาก่อนสามารถศึกษาและต่อยอดเล่นโอมาฮาได้ไม่ยาก แน่นอนว่าในวันนี้เราจะพาไปรู้จักกับไพ่โป๊กเกอร์ชนิดนี้กันแบบเจาะลึกว่าทำไมเราถึงควรเล่นไพ่ชนิดนี้ด้วย และมันมีอะไรที่น่าสนใจตรงไหนบ้าง
ถ้าคุณคือนักเล่นโป๊กเกอร์มือใหม่ที่กำลังคิดจะถอดใจเลิกเล่น เพราะไม่เคยเอาชนะคู่ต่อสู้ได้เลยสักครั้ง ขอบอกก่อนเลยว่า อย่าพึ่งวู่วามไป เพราะวันนี้เรามีเทคนิคดีๆมาแนะนำให้นักเล่นโป๊กเกอร์มือใหม่โดยเฉพาะกับ 4 ขั้นตอนง่าย ๆ ที่จะช่วยให้ชนะโป๊กเกอร์ รับรองว่าใช้ได้จริง
วิธีการวางเงินใน Pot limit Omaha
ปกติแล้วการเล่นแบบพอทลิมิตโอมาฮาจะมีการกำหนดไว้ว่าสามารถลงเงินได้ไม่เกินขนาดของพอทหรือเงินกองกลาง เนื่องจากเกมนี้จะเน้นไปที่การลงเงินเพื่อตามให้ติดไพ่ดี ๆ นั่นเอง อย่างไรก็ตามมีคาสิโนออนไลน์บางแห่งเปิดให้เล่นแบบลงเงินไม่จำกัดหรือที่เรียกว่า No limit ด้วยเช่นกัน
ด้วยเงื่อนไขในการเล่นแบบ Pot limit Omaha ทำให้ผู้เล่นสามารถวางเงินได้ไม่เกินกว่าราคาพอท ดังนั้นหากผู้เล่นต้องการที่จะเกทับในราคาที่สูงขึ้น หนทางเดียวที่จะทำได้ก็คือต้องเพิ่มเงิน Call ก่อนหน้าเข้าไป ยกตัวอย่างเช่น
ราคาบลายด์ 1/2 หมายความว่าผู้เล่นสมอลบลายด์จะต้องลงเงิน 1 ส่วนบิ๊กบลายด์ลง 2 จังหวะนี้ผู้เล่นคนแรกเลือกที่จะ Call 2 ซึ่งส่งผลให้ผู้เล่นคนที่สองต้องตัดสินใจว่าจะเลือก Call 2 หรือจะเกทับโดยเพิ่มเงินอีก 7 จากราคา Call
ที่ต้องเกทับโดยเพิ่มเงิน 7 เราคิดจาก สมอลบลายด์ (1) + บิ๊กบลายด์ (2) + ผู้เล่น 1 (2) + ราคาคอลของผู้เล่น 2 (2) = 7 ตามเงื่อนไขที่บอกว่า “หากผู้เล่นต้องการวางเงินเกินกว่าราคาพอทปัจจุบัน จะต้องเกทับโดยการเพิ่มราคาคอลก่อนหน้าเข้าไปด้วย” นั่นก็คือ พอท (5)+ราคาคอลก่อนหน้า (2) = 7
กติกาการเล่นโอมาฮา
สำหรับกติกาจะมีความแตกต่างจากเท็กซัสโฮลด์เอ็มเล็กน้อยคือ เริ่มต้นมาผู้เล่นแต่ละคนจะได้รับแจกไพ่ Hole Card 4 ใบ หลังจากนั้นต้องนำไพ่ที่ได้ไปรวมกับไพ่กองกลางอีก 5 ใบ เพื่อจัดมือที่ดีที่สุด และก่อนเริ่มเล่นทุกมือจะต้องมีการวางเงินสมอลบลายด์กับบิ๊กบลายด์เสมอ ส่วนรอบการเล่นยังคงเป็น 4 รอบตามเดิมคือ Pre-flop, Flop, Turn และ River หลังจากจบรอบ River แล้วจะเป็นช่วง Showdown โดยผู้เล่นที่มีไพ่ 5 ใบที่เป็นมือที่ดีที่สุดจะเป็นผู้ชนะในเกมนั้น
ส่วนการจัดมือที่ดีที่สุดของโอมาฮาจะมีความแตกต่างคือผู้เล่นต้องใช้ Hole Card 2 ใน 4 ใบที่รับ มารวมกับไพ่กองกลางอีก 3 ใบ ขณะที่เท็กซัสโฮลด์เอ็มจะใช้หรือไม่ใช้ไพ่ในมือเลยก็ได้
ยกตัวอย่างเช่น
- ไพ่กองกลางมี K♠, 2♠, 9♥, 8♠ และ 7♠
- ผู้เล่น 1 ได้ A♠, Q♥, J♥ และ 10♥
- ผู้เล่น 2 ได้ 2♥, 2♦, 2♠ และ 3♥
- ผู้เล่น 3 ได้ J♠, 10♠, 5♦ และ 5♣
จากตัวอย่างใครที่เล่นเท็กซัสโฮลด์เอ็มมาก่อนอาจคิดว่าผู้เล่น 1 มีทั้งไพ่เรียงและไพ่ฟลัชที่ดีที่สุด รวมถึงผู้เล่น 2 ก็ยังมี Four of a kind ด้วย แต่อย่าลืมว่าโอมาฮาบังคับว่าผู้เล่นจะต้องใช้ไพ่ในมือแค่ 2 ใบ และไพ่กองกลางอีก 3 ใบ เท่านั้นในการจัดมือที่ดีที่สุด นั่นทำให้ผลที่ได้ออกมาดังนี้
ผู้เล่น 3 ชนะด้วย King High Flush เพราะมี Flush ในมือและมี K เป็นคิกเกอร์
ส่วนผู้เล่น 1 ชนะเป็นอันดับสองด้วย Jack High Straight เพราะมีไพ่เรียงสูงสุดที่ J
ขณะที่ผู้เล่น 2 ที่มือแย่ที่สุดจบเกมด้วย a Set of Deuces เพราะมีเพียงแค่ตอง 2 เท่านั้น
ระดับไพ่โอมาฮาโป๊กเกอร์
เมื่อได้เห็นตัวอย่างและกติกาการเล่นกันไปแล้วหลายคนอาจคิดว่าโอมาฮานั้นมีระดับความแข็งแกร่งของไพ่ที่แตกต่างจากโป๊กเกอร์รูปแบบอื่น ๆ ทว่าแท้จริงแล้วความแข็งแกร่งของมันเหมือนกับเท็กซัสโฮลด์เอ็มทุกประการ โดย Royal Flush ยังคงเป็นมือที่ดีที่สุด ขณะที่ High Card ยังคงเป็นมือแย่ที่สุดเช่นกัน
ทำไมต้องเล่นพอทลิมิตโอมาฮาด้วย
จริงอยู่ว่า Pot limit Omaha เป็นเกมที่ต้องคิดเยอะ คิดให้ดี มีจุดตัดสินใจยิบย่อยเต็มไปหมด ทำให้การวิเคราะห์และสร้างทฤษฎีมารองรับการเล่นทำได้ยากยิ่งขึ้น แถมยังต้องใช้ไพ่หลายใบในการเล่น เต็มไปด้วยความหลากหลาย ไม่เหมือนกับเท็กซัสโฮลด์เอ็มที่เราสามารถสร้างตารางสำหรับเลือกมือเริ่มต้นได้เอง
แต่ในความยากตรงนี้ถือเป็นข้อดีที่จะช่วยให้ผู้เล่นพัฒนาตัวเองได้ไวยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการคิดต่อยอดและทักษะการเล่นโป๊กเกอร์ที่จำเป็นต้องมี ไม่ว่าจะเป็นการอยู่รอดไปจนถึงช่วง Show down โดยที่ไม่ถูกเกทับจนถึงกับหมอบ ไปจนถึงการตัดสินใจที่เฉียบคมยิ่งขึ้นในช่วงหลังฟลอบออกมาแล้ว
5 แนวคิดที่ต้องเข้าใจก่อนเล่น Pot limit Omaha
ก่อนที่จะเล่นพอทลิมิตโอมาฮานั้นผู้เล่นจำเป็นต้องเข้าใจแนวคิดของเกมนี้เสียก่อน เพราะมันเป็นเกมที่มีแนวทางการเล่นค่อนข้างจะแตกต่างจากเท็กซัสโฮลด์เอ็มพอสมควร แต่ด้วยกติกาและวิธีการเล่นที่คล้ายคลึงกันอาจทำให้ผู้เล่นสับสนโดยไม่รู้ตัว ซึ่งแนวคิดที่ว่าก็มี
-
ให้ความสำคัญในตำแหน่งการเล่น
ปฏิเสธไม่ได้ว่าตำแหน่งการเล่นนั้นเป็นสิ่งสำคัญที่สร้างความได้เปรียบเป็นอย่างมาก เพราะว่าโอมาฮาเป็นเกมที่เน้น Draw (ตาม) เพื่อสร้างโอกาสติดไพ่ดี ๆ ไม่ได้เน้นที่การเล่นไพ่ใหญ่อย่าง AA, KK ดังนั้นการได้เล่นในตำแหน่งที่ดีจะทำให้การเล่นง่ายยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการบลัฟคู่ต่อสู้เพื่อสร้างกำไร ขณะเดียวกันอีกฝ่ายก็ทำการบลัฟเราได้ยากขึ้นเพราะอยู่ในตำแหน่งที่แย่กว่า ทำให้ได้เล่นทีหลัง
-
หาจังหวะเพิ่มโอกาสชนะอยู่เสมอ
หากมีเพียงแค่ตำแหน่งที่ดีแต่ไม่รู้จังหวะเพิ่มโอกาสชนะก็ไร้ค่า อย่าลืมว่าโป๊กเกอร์ประเภทนี้ทุกคนมีโอกาสชนะสูงในระดับหนึ่ง และเป็นแบบนี้แทบทุกมือด้วย สิ่งสำคัญคือควรจะเล่นมือนั้นจนกว่าไพ่กองกลางใบสุดท้ายจะหงายขึ้นมา แล้วถ้าได้เล่นในตำแหน่งที่ดียิ่งทำให้มีโอกาสคุมราคาพอทและอยู่รอดไปจนถึงรอบ River
-
อย่าลืมที่จะปกป้องไพ่ในมือด้วย
อย่างที่บอกไปแล้วว่าไพ่นี้ทุกคนมีโอกาสชนะมากพอ ๆ กัน นั่นทำให้คนที่มีไพ่มืออ่อนมีโอกาสเหลือรอดมาถึงรอบท้าย ๆ อย่างไรก็ตามเราสามารถเลือกที่จะลงเงินหนัก ๆ ยิ่งมีไพ่ดียิ่งต้องลงหนักอีก เพื่อปกป้องไพ่ของตัวเองเอาไว้และไม่ควรที่จะเล่นช้าจนถูกอ่านทางได้ ซึ่งการลงเงินหนักนอกจากจะกันไพ่ได้แล้วยังช่วยเพิ่มมูลค่าไพ่ได้อีกด้วย เพราะไม่ว่าอย่างไรอีกฝ่ายก็คอลตามเพื่อดูไพ่อยู่ดี
-
จังหวะสำคัญอยู่หลังจากฟลอบออก
หากเป็นเท็กซัสโฮลด์เอ็มแล้วล่ะก็ เพียงแค่ได้ AA ตอนฟลอบออก ก็มีโอกาสชนะมากว่าคนอื่นแทบทุกครั้ง ต่างจากโอมาฮาที่เน้นเล่นหลังฟลอบออกเสียมากกว่า เพราะว่าทุกครั้งที่ฟลอบออกมาโอกาสชนะก็จะลดลงด้วย จากกฎการจัดมือที่ดีที่สุดที่บังคับให้เราใช้ไพ่ในมือได้แค่ 2 ใบ ไปรวมกับไพ่กองกลางอีก 3 ใบนั่นเอง ดังนั้นต้องคอยคิดหากลยุทธ์มาพลิกสถานการณ์อยู่ตลอดเวลา เพื่อให้รอดไปถึงรอบ Show down ให้ได้
สิ่งที่เป็นสุดยอดศิลปะแห่งการลวงหลอก หลอกลวงคือ การบลัฟ นั่นเอง แต่เมื่อเรายิ่ง Bluff แล้วยิ่งแย่ เรามาแก้ด้วย Semi-bluff กันดีกว่า ดังนั้นวันนี้เราจะมาอธิบายให้เข้าใจกับ เทคนิคการเล่นโป๊กเกอร์ Semi-bluff กัน
-
ไพ่นี้ที่รอคอย
ในเกมนี้มักจะมีเหตุการณ์ที่ผู้เล่นสองคนมีมือแบบเดียวกันหรือรอไพ่แบบเดียวกันอยู่ เพียงแต่อีกคนยังมีโอกาสที่จะไปเป็นมือที่ดีกว่า เช่น ทั้งคู่รอไพ่เรียงแบบเดียวกัน แต่อีกคนมีโอกาสรอไพ่สีด้วย ทำให้คนที่รอทั้งเรียงและรอสีมีโอกาสชนะมากกว่า ถ้าเพียงแค่ติดสีก็จะชนะทันทีอีกด้วย ยกตัวอย่างเช่น
ไพ่กองกลางมี K♦, 9♦ และ 7♣
ผู้เล่น 1 ได้ Q♣, J♣, 10♥ และ 8♠
ผู้เล่น 2 ได้ Q♦, J♦, 10♣ และ 8♥
มาถึงตรงนี้แล้วใครที่ยังไม่เคยเล่นพอทลิมิตโอมาฮาคงอาจจะเริ่มสนใจกันมาบ้างแล้ว ที่จริงการเล่นโป๊กเกอร์ประเภทนี้บอกเลยว่าเข้าใจได้ง่ายมาก ๆ แค่มีพื้นฐานเท็กซัสโฮลด์เอ็มมาบ้างก็พอ เพราะมันคือเกมที่ยกระดับความยากให้มากยิ่งขึ้น แน่นอนว่าการจะเป็นผู้ชนะนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ถ้าทำได้เชื่อเถอะว่าการเล่นโป๊กเกอร์ของคุณจะดีขึ้นอย่างแน่นอน
หัวใจสำคัญในการตัดสินใจในการเล่นของเราว่าจะเล่นต่อไปอย่างไร หรือที่อาจจะได้ยินนักเล่นโป๊กเกอร์พูดถึงบ่อยๆกับคำว่า Pot odds เพราะเป็นเรื่องที่ต้องทำความเข้าใจก่อนเล่นโป๊กเกอร์ งั้นวันนี้เราจะพาไปรู้จักกับ กลยุทธํ์โป๊กเกอร์ Pot odds